Tuesday, October 30, 2012

งบกำไร ขาดทุน Income Statement




ปี 2011 กำไรมากที่สุดในโลก $41,000 ล้าน


 ปี 2011 กำไร $26,000 ล้าน          ปตท กำไร ปี2011 $3,500 ล้าน
รายงานทางการเงิน ที่สำคัญมาก ไม่ว่า บริษัทใหญ่หรือ เล็ก สำคัญน้อยกว่า
กำไร มากน้อย ( หรือ ขาดทุน)   ดังนั้น รายงานที่ ผู้บริหาร ( และผู้ถือหุ้น ) ทุกๆงวด ใจจดจ่อคือ
รายงาน งบกำไรขาดทุน  Income Statement หรือ Profit and loss statement (P&L) ปัจจุบันเรียกชื่อใหม่ว่า

 งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ มากจาก ภาคภาษาอังกฤษว่า  Statement of Comprehensive Income 



     แสดง           จำนวนรายได้ในรอบระยะเวลา
     ต้นทุนสินค้าและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการได้รับรายได้
             บรรทัดสุดท้าย แสดง   ผลกำไรสุทธิ หรือ ผลขาดทุน
  
จากกำไรสุทธิ     ก็จ่ายคืนผู้ถือหุ้น เป็น เงินปันผล  Divident  หรือ เก็บไว้ เป็นทุน  ไว้ก่อน
Retained Earnings  เพื่อ.ใช้ การการขยายกิจการ หรือ เก็บไว้ วันหลังจ่าย คืนผู้ถือหุ้น เป็นเงินปันผลก็ได้

 ประเภท   รายได้ ขึ้นอยู่กับ ธุรกิจ

      ขายสินค้า   ผู้ผลิต หรือ  ผู้ค้าขายสินค้า

      การให้บริการ   ผู้ประกอบการบริการ  แพทย์  ที่ปรึกษา    ทนายความ

      ดอกเบี้ย   ธนาคารพานิชย์  สถาบันการเงิน

      ค่าธรรมเนียม  บริษัทหลักทรัพย์  บริษัทนายหน้า
 


วิธีการรับรู้รายได้ของธุรกิจ

        Cash Basis  เกณท์เงินสด  
รับรู้  เป็น รายได้ ( และ รายจ่าย ) เมื่อได้รับ เงินสด หรือ ได้จ่าย เงินสด 
Accrual Basis   เกณท์คงค้าง- บริษัททั่วไป  ธุรกิจทั่วไป   ( เกือบทั้งหมด )
รับรู้เป็นรายได้ หรือ รายจ่าย เมื่อ  เกิดขึ้น  Accrue
        รายได้และค่าใช้จ่ายไม่ได้บันทึก ณ จุดที่รับหรือจ่ายเงินเสมอไป  แต่จะรับรู้เมื่อ เกิดขึ้น
        ผลคือ  รายได้และค่าใช้จ่าย  ไม่ใช่ตัวสะท้อนกระแสเงินสด
        มาตรฐานการบัญชี  แนะนำให้ธุรกิจใช้ Accrual Basis  ไม่ควรใช้  Cash Basis
        สรรพากร  เดิมไม่รับ Accrual Basis    ปัจจุบันรับ  เรียก    เกณท์สิทธิ 



Expenses ประเภท    รายจ่าย   ก็ ขึ้นอยู่กับ ประเภท ธุรกิจ
        Cost of Sales ต้นทุนสินค้า  ผู้ผลิต ผู้ค้าขายสินค้า 
        Wages ค่าแรงงาน เงินเดือน   บริษัททั่วๆไป
        Interest (on loans)  ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม  บริษัทที่กู้ยืมเงิน มากๆ ผู้ผลิต
        Rent (for office and store space) ค่าเช่า ที่ทำการ โรงงาน
        Taxes  ภาษีเงินได้    กรณีมีกำไร




หลักการสำคัญอีกประการ   ทางบัญชี  กำไรขาดทุน 
Matching Principle หลักการ จับคู่
        หลักการรับรู้รายจ่ายให้ จับคู่กับรายได้
        หลักการที่ว่า ความพยายาม  ( ค่าใช้จ่าย )  ควร จับคู่กับ    ความสำเร็จ  ( รายได้ ) 
        เครื่องจักร โรงงาน   ก่อให้เกิดรายได้ หลายๆปี    Matching ค่าใช้จ่ายกับรายได้  ทะยอยตัดเป็นค่าใช้จ่าย ( ค่าเสื่อมราคา Depreciation ) ตามอายุใช้งาน ( ระยะเวลาใช้หารายได้ ) เช่น เครื่องจักร ใช้งาน( หารายได้)ได้ 10ปี ก็ทะยอยตัดราคาเตรื่องจักร ((depreciationค่าเสื่อมราคา )10 ปี รถยนต์บริษัท  ใช้ประโยชน์ ให้บริษัทได้ 5 ปี ก็ตัดค่าเสื่อม เป็นค่าใช้จ่าย 5 ปี เครื่องจักรที่ ใช้งานหาประโยชน์ ได้ 20 ปี ก็ตัดค่าใช้จ่าย 20 ปี  matching  กันไปตามหลักการและข้อเท็จจริง